เป็นเลิศด้านวิชาการ เพื่อรับใช้สังคม Hec Cmu ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “หริภุญไชย” จังหวัดลำพูน

สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการ ผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการ ทางวิชาการแก่สังคมและบำรุงศิลปวัฒนธรรมอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ

ในปีพ.ศ. ๒๕๔๓ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมให้เกิดความพร้อมเพื่อประโยชน์ในการขยายงานทางวิชาการต่อไปอีกทั้งจากนโยบายการเปลี่ยนสถานะให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐทำให้ต้องมีการจัดการเตรียมความพร้อมเพื่อบริหารงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อโครงการออกแบบวางผังแม่บท ๓๐ปี ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “หริภุญไชย” จังหวัดลำพูนขึ้น โดยมอบหมายให้ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับคณาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาจากภายนอกรับผิดชอบทำการศึกษาออกแบบวางผังให้สามารถนำไปใช้ในการดำเนินการจัดตั้งศูนย์การศึกษาฯ ออกแบบวางผังแม่บท ๓๐ ปี ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “หริภุญไชย” จังหวัดลำพูน สามารถสนองนโยบายของมหาวิทยาลัยได้อย่างสมบูรณ์พร้อมทั้งสอดคล้องและเอื้อประโยชน์ให้ได้ทั้งในระดับชุมชน ระดับท้องถิ่นระดับภูมิภาคและในระดับมหภาคและมหาวิทยาลัยได้เริ่มดำเนินการ ก่อสร้างอาคารและให้บริการด้านการเรียนการสอน ตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ เป็นต้นมา

วิสัยทัศน์
ปณิธาน
พันธกิจ
เป้าหมาย

แผนพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระยะที่ 13 (พ.ศ.2566-2570)

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระยะที่ 13 (พ.ศ.2566-2570) ขึ้น เพื่อเป็นแผนกลยุทธ์ที่มีเป้าหมายสำหรับขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยรวม ให้ตอบสนองต่อเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งในระดับพื้นที่และประเทศ อาทิ นักศึกษา ผู้เรียน ผู้ใช้บัณฑิต ชุมชน สังคม องค์กรของรัฐและเอกชนที่เป็นผู้ใช้ผลงานทางวิชาการและวิจัย เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยและประเทศให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้วยสมรรถนะหลักที่มุ่งเน้นการบูรณาการความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่หลากหลาย เพื่อสร้างนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน ศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงการบริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในระยะ 4 ปี (พ.ศ.2566-2570) งานแถลงข่าวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 ว่าแผนพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระยะที่ 13 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ "มหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม" โดยได้ออกแบบระบบและกลไกการบริหารงานให้สอดรับกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ (Strategic Objectives) ที่กำหนดไว้ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ SO1 สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านนวัตกรรมเศรษฐกิจฐานชีวภาพ (Biopolis Platform) SO2 สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านนวัตกรรมการแพทย์ สุขภาพ และการดูแลผู้สูงอายุ (Medicopolis Platform) SO3 สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านล้านนาสร้างสรรค์ (Creative Lanna Platform) SO4 สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการจัดการศึกษา (Educational Platform) SO5 สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการวิจัยและนวัตกรรม (Research and Innovation Platform) SO6 บริหารจัดการองค์กรเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ (CMU Excellence Management Platform) พร้อมกันนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ปักธงเพื่อยกระดับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรม (Innovation University) นับเป็นโจทย์ท้าทายที่มีความสำคัญในยุคปัจจุบัน โดยจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย นำความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะนวัตกรรมทางการศึกษาซึ่งถือเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นต้องพัฒนาเพื่อการปรับตัวให้เข้ากับบริบททางการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว (Educational Innovation) ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องเร่งกระบวนการในการผลักดันการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรที่มีอยู่ของมหาวิทยาลัย ได้แก่ นักวิจัย บุคลากร นักศึกษา เครื่องมือวิจัย องค์ความรู้ งานวิจัยภูมิปัญญา ให้นำไปสู่การใช้งานจริงเพื่อสร้างนวัตกรรมผ่านกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology Transfer) การสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพ (ทั้งที่เป็น Hi-Tech Start-up และ Hi-Touch Start-up) รวมไปถึงการสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมและชุมชน (Social Innovation) ที่ต่อยอดความสำเร็จของการเป็นมหาวิทยาลัยรับใช้สังคม สามารถส่งต่อนวัตกรรมไปสร้างความเข้มแข็ง และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับภาคประชาชนบนพื้นฐานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างนวัตกรรมระหว่างภาคการศึกษา ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม อาทิ นโยบายด้านนวัตกรรมเศรษฐกิจฐานชีวภาพ BCG Valley in CMU Biopolis Platform เพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาด้าน BCG ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อขยายผลสู่ระดับประเทศและนานาชาติ เช่น Agri Smart Engine for SDGs (เกษตรอัจฉริยะอย่างยั่งยืน): การสร้างระบบการเกษตรที่ทันสมัย ใช้ AI และมีมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ได้ผลผลิตสูง ช่วยให้เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ ส่งผลต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดภาระด้านสิ่งแวดล้อม นโยบายด้านนวัตกรรมการแพทย์ สุขภาพ และการดูแลผู้สูงอายุ Medicopolis Platform เช่น “Health Care Service System and Medical Hub” จัดตั้งศูนย์บริการสุขภาพและนวัตกรรมสุขภาพ ตลอดจนสร้างระบบดูแลสุขภาพแบบเชื่อมโยงในกลุ่มโรคที่สำคัญ ที่สามารถเป็นต้นแบบในระดับประเทศ เพื่อดูแลสุขภาพของนักศึกษา บุคลากร และประชาชนเชียงใหม่ ที่จะผลักดันและพัฒนาให้เชียงใหม่เป็นย่านนวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพ นโยบายด้านล้านนาสร้างสรรค์ (Creative Lanna Platform) เช่น เปิดพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อชาว มช.(Creative Lanna Open Space) เน้นการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ทั่ว มช. ทั้งในรูปแบบ onsite สำหรับงานสร้างสรรค์และออกแบบที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงการทำเวิร์คช็อป การวิจัย การพัฒนาเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน และยังเป็นพื้นที่สำหรับนักศึกษาบุคลากรหรือบุคคลทั่วไปที่ให้ความสนใจด้านงานสร้างสรรค์มาแลกเปลี่ยนไอเดีย และรูปแบบ on cloud ที่เป็นพื้นที่เผยแพร่ผลงาน รวมถึงให้บุคคลทั่วไปได้เข้าถึง และใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านล้านนาสร้างสรรค์ นโยบาย CMU Smart City เมืองอัจฉริยะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มุ่งเน้นการใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการเมือง บูรณาการเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมที่มีคุณค่า และนำมาต่อยอดให้ใช้งานได้จริง เช่น CMU Open Data ที่จะสร้างระบบการบูรณาการทางด้านข้อมูลในทุกมิติให้กับมหาวิทยาลัย เพื่อให้ทุกส่วนงานแลกเปลี่ยนและใช้ข้อมูลระหว่างกันได้ ส่งผลให้การดำเนินงานต่างๆ มีความถูกต้องและรวดเร็ว นโยบายด้านการจัดการ PM2.5 ในโครงการพีเอ็ม2.5 และมลพิษที่เกี่ยวข้อง จากพื้นที่สู่ห้องปฏิบัติการสู่การวิจัยทางคลินิก โดยประยุกต์ใช้โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบใหม่สร้างสมดุล ระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ (Bio – Circular - Green หรือ BCG Economy) เพื่อปัญหาสำคัญของพื้นที่ภาคเหนือ นโยบายและการดำเนินการต่างๆ จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่บรรลุวิสัยทัศน์ของการเป็น "มหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรม สามารถสร้างผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญและมีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก" ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานสามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง มหาวิทยาลัยได้จัดทำเว็บไซต์นโยบายแผน 13 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ https://policy13.cmu.ac.th/ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการดำเนินงานในด้านต่างๆ ของมหาวิทยาลัย โดยได้เผยแพร่ 92 นโยบาย ที่สอดรับกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ 6 ด้านหลัก พร้อมทั้งมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย มีช่องทางเปิดรับฟังทุกความเห็น เพื่อนำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปพัฒนามหาวิทยาลัยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น การก้าวอย่างไม่หยุดนิ่งของทุกส่วนในการดำเนินงานตามนโยบายแผน 13 มช. ได้ตั้งเป้าหมายวิสัยทัศน์ในการบริหารว่า จะพัฒนามหาวิทยาลัยให้มีผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก โดย Time Higher Education University Impact Ranking (THE UIR) อยู่ใน 50 อันดับแรกของโลก รวมถึงมุ่งสร้างสรรค์ผลงานที่มีประโยชน์เพื่อสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม (Socio-Economic Impact) มากกว่า 60,000 ล้านบาท และนำมหาวิทยาลัยให้ได้รับการประเมินคุณภาพองค์กรตามเกณฑ์ Thailand Quality Award อยู่ในระดับ Thailand Quality Class Plus TQC+ (Innovation)

ศูนย์การศึกษา มช. ผ่านการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร

ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "หริภุญไชย" จังหวัดลำพูน ได้ผ่านการรับรองการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization : CFO) และได้รับเครื่องหมายรับรองคาร์บอนนิวทรัล (Carbon Neutral Certificate) ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "หริภุญไชย" จังหวัดลำพูน สำนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 114 องค์กรที่ได้รับการรับรองการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรและได้รับเครื่องหมายรับรองคาร์บอนนิวทรัล (Carbon Neutral Certificate) ซึ่งเป็น 1 ใน 24 องค์กรที่ได้รับเครื่องหมายรับรองคาร์บอนนิวทรัล โดยการรับรองจากคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ครั้งที่ 1/2567 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เป็นผลงานจากการที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ผลักดันยุทธศาสตร์เชิงรุกด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความพร้อมของผลงานทั้งในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก องค์ความรู้ งานวิจัยพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่สามารถใช้เป็นฐานในการขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นต้นแบบของสถาบันการศึกษาที่มุ่งมั่นในการเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral University) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาของโลกอย่างยั่งยืน โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนตั้งเป้าหมายให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ.2575 และเป็นต้นแบบสถาบันการศึกษาที่มุ่งแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างยั่งยืน

ค่ายนักกฎหมาย มธ. ศูนย์ลำปาง

คณะกรรมการค่ายนักกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง จัดโครงการ "ค่ายนักกฎหมาย" เพื่อเสริมสร้างให้นักศึกษานิติศาสตร์ มธ. ได้มีความรู้ความเข้าใจในการศึกษาวิชานิติศาสตร์และได้การแนะแนวในการประกอบอาชีพด้านกฎหมาย ระหว่างวันที่ 12 - 15 กันยายน 2567 ณ ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

ค่ายสานสัมพันธ์ชมรมคริสตชน 67

ชมรมคริสตชน สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดโครงการค่ายสานสัมพันธ์ชมรมคริสตชน 67 "Back to Basic" เพื่อเชื่อมความสามัคคี แนะแนวและช่วยเหลือกันของนักศึกษาในชมรมฯ ระหว่างวันที่ 20 - 22 กันยายน 2567 ณ ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

งานมุทิตาจิตแก่พนักงานที่เกษียณอายุงานประจำปี 2567

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงานมุทิตาจิตแก่ข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัยและลูกจ้างประจำที่เกษียณอายุงานประจำปี 2567 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.ประโยชน์ อุนจะนำ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมพิธีฯเพื่อเชิดชูเกียรติ และระลึกถึงคุณงามความดี ที่ได้อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ด้วยแรงกาย แรงใจ มีความมานะ อุตสาหะ พากเพียรพยายาม มุ่งมั่นสรรค์สร้างและพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตลอดมา เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ณ ศาลาธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูนเขต 1

เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษา "ดอยดอกทิพย์" สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูนเขต 1 จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือสำรอง ลูกเสือสามัญ และเนตรนารี ประจำปี 2567 เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนเป็นผู้มีระเบียบวินัย มีความสามัคคี มีความอดทน ฝึกทักษะการแก้ปัญหาและการทำงานร่วมกับผู้อื่น ระหว่างวันที่ 7 - 9 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

พิธีทำบุญตักบาตรวันเทโวโรหณะ 2567

คณะกรรมการดำเนินงานด้านส่งเสริมศาสนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันเทโวโรหณะ ประจำปี 2567 โดยมีศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลขานุการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, รองศาสตราจารย์ ดร.ประโยชน์ อุนจะนำ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีฯ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ ข่วงวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม ทางขึ้นวัดฝายหินมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ เป็นประเพณีการทำบุญตักบาตรหลังวันออกพรรษา โดยคำว่า “เทโวโรหณะ” แปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก แต่เพื่อให้สะดวกในการสื่อความหมาย นิยมเรียกสั้นๆ ว่า “การตักบาตรเทโว”โดยที่มาของประเพณีนี้ มาจากตำนาน “การเสด็จลงจากเทวโลกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” คือ หลังจากพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว พระองค์ได้เสด็จไปประกาศศาสนาทั่วชมพูทวีป ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ พาราณสี สาวัตถีตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นราชปิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพุทธสาวกและพระประยูรญาติทั้งหลายให้บรรลุมรรคผลตามสมควรแก่อุปนิสัยของแต่ละบุคคลมาเป็นลำดับถึง 6 พรรษา จากนั้นพระองค์ทรงรำลึกถึงพระนางสิริมหามายาพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ดังนั้นในพรรษาที่ 7 หลังจากทรงตรัสรู้ พระองค์จึงได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษา ทรงเทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดาตลอดพรรษา ครั้นหลังออกพรรษา พระพุทธองค์ได้ทรงเสด็จลงสู่โลกโดยเสด็จสถิตเหนือยอดเขาสิเนรุราช โดยมีเหล่าเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างพากันมาถวายเครื่องสักการบูชาเพื่อรับเสด็จพระพุทธองค์ และระหว่างนั้นได้เกิดเหตุอัศจรรย์ คือ เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก ต่างมองเห็นซึ่งกันและกัน ดังนั้นในวันนี้จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วันพระเจ้าเปิดโลก” คือ เปิดให้เห็น กันทั้ง 3 โลก

โครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดโครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีของข้าราชการและบุคลากรของหน่วยงานในสังกัดและสถาบันอุดมศึกษา โดยศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. - มช. เป็นผู้ดำเนินงานกิจกรรม โดยมีศาสตราจารย์ปฏิบัติ ดร.เอกชัย มหาเอก รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชิตชล ผลารักษ์ ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. - มช. กล่าวรายงาน, รองศาสตราจารย์ ดร.ประโยชน์ อุนจะนำ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษามหาวิยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้บริหาร, คณาจารย์, บุคลากร, นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน, เทศบาลตำบลศรีบัวบาน, เทศบาลตำบลหนองล่อง, หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมพิธีฯและปลูกต้นไม้ร่วมกัน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ณ พื้นที่ปกปักทรัพยากร โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (อพ.สธ.-มช.) และศูนย์รวบรวมพันธุ์พืชพื้นถิ่นและแปลงวนเกษตร ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน

ร่วมแสดงความยินดีคณะแพทยศาสตร์ มช. 65 ปี

ศาสตราจารย์ (เชี่ยวชาญพิเศษ) นายแพทย์ บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ ให้การต้อนรับ รองศาสตราจารย์ ดร.ประโยชน์ อุนจะนำ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะ เพื่อร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครบรอบ 65 ปี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ณ อาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โครงการอาสาเพาะกล้าไม้ท้องถิ่น คณะบริหารธุรกิจ

คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดโครงการอาสาเพาะกล้าไม้ท้องถิ่น แก่นักศึกษาจิตอาสา คณะบริหารธุรกิจ มช. เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯได้ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเกิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน โดยฝึกปฏิบัติกับวิทยากรจากหน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า (FORRU) ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมสนับสนุนโครงการฯ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ณ บริเวณศูนย์รวบรวมพันธุ์พืชพื้นถิ่นและแปลงวนเกษตร โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (อพ.สธ. - มช.) ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

ให้การต้อนรับคณะจาก Chinese Academy of Sciences

รองศาสตราจารย์ ดร.ประโยชน์ อุนจะนำ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชิตชล ผลารักษ์, รองศาสตราจารย์ ดร.อังคณา อินตา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. - มช., Prof.Bai Yang และคณะ Lanscape Ecology จาก Xishuangbanna Tropical Botanical Garden (XTBG), Chinese Academy of Sciences (CAS) ในโอกาสหารือความร่วมมือทางวิชาการและเข้าสำรวจพื้นที่ปกปักทรัพยากร โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี .shdki- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (อพ.สธ.-มช.) และศูนย์รวบรวมพันธุ์พืชพื้นถิ่นและแปลงวนเกษตร ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567

มารู้จักเราให้มากขึ้น

ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “หริภุญไชย” จังหวัดลำพูน